เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)

  • 13 ตอบ
  • 20093 อ่าน

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:15:28 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 1
สวัสดีค่ะทุกท่าน
วันนี้ benfever มีเคล็ดไม่ลับจะมาเล่าสู่กันฟังในการสร้างบุญนะคะ บางคนคิดว่าเราจะสร้างบุญเราต้องไปทำที่วัดเสมอ แต่ความเป็นจริงแล้วเราสามารถสร้างบุญบารมีที่บ้านหรือที่ไหนๆ ก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปที่วัดอย่างเดียวนะคะ และที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ชื่อหัวข้อ benfever คิดเอง ถ้าท่านใดไม่ถูกใจต้องขออโหสิกรรมด้วยนะคะ               
               ทำสมาธิง่ายนิดเดียว
- คุณ print รูปใครจะใหญ่เกินกรรม มาวางไว้ตรงหน้านะคะ
- นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งท่าที่คุณสบาย
- กำพระผงจักรพรรดิ์ ไว้ที่มือ
- ลืมตาดูรูป แล้วภาวนา (สวดจักรพรรดิ์ในใจ)ไปเรื่อยๆ แล้วหลับตานึกถึงรูปที่ดูค่ะ ถ้าภาวนาไตรสรณคมณ์ได้สงบ ถ้าภาวนาจักรพรรดิ์ได้ฤทธิ์ คุณก็เลือกเอาว่าอยากได้อะไร
- นึกไม่ออก ลืมตาดูใหม่ ไม่ต้องอยาก ไม่ต้องสงสัย ทำไปเรื่อย แล้วหลับตานึกรูปอีก (เรียกว่าดูทางจิตค่ะ)
- นั่งสมาธิวันละ 3 นาทีพอ ผ่านไปอาทิตย์นึงค่อยเพิ่มเป็น 5 นาที ก็ได้ค่ะ (ทำอย่างนี้คุณจะได้ภาวนาบารมีเพิ่ม เนกขัมมะบารมีเพิ่ม เป็นต้นค่ะ)
บางท่านที่ปฏิบัติแล้วรู้สึกว่าพระผงจักรพรรดิ์ ดิ้นได้ ไม่ต้องแปลกใจนะคะ เพราะว่าพระผงจักรพรรดิ์เป็นพระที่มีที่เดียวในโลกค่ะ ที่ดิ้นได้ เดินได้ เสด็จไปไหนมาไหนได้ นำไปกำทำสมาธิได้ ฯลฯ (อย่างอื่นยังไม่บอกเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น)

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:17:48 am »
นึกสวดในใจก็ภาวนาแล้ว
- โหลดภาพใครจะใหญ่เกินกรรมใส่มือถือ หรือพกรูปติดตัวในกระเป๋า วางบนโต๊ะทำงาน ติดกำแพงห้อง ติดในห้องนอน เป็นต้น ( benfever ใช้วิธีนี้ตลอดค่ะ) หมั่นดูท่านให้ติดตา จำให้ขึ้นใจ
- นั่ง ยืน เดิน นอน อาบนํ้า ก็สวดบทจักรพรรดิ์ในใจ ในขณะที่นึกภาพใครจะใหญ่เกินกรรม (ยิ่งสวด ยิ่งรวยนะคะ)
- เปิดเสียงสวดที่ส่งไปให้เวลาออกไปข้างนอก คนอื่นฟังเพลง แต่เราฟังเสียงสวด พร้อมกับภาวนาใจในไปด้วย (โอ้โห อานิสงส์มหาศาล แต่คนอื่นไม่ได้อย่างเรานะคะ แถมจิตตกอีกต่างหาก)
บางท่านทำจนติดเสียงสวดไปโดยปริยาย เลิกฟังเพลงอัตโนมัติ เพราะฟังแล้วหงุดหงิด เครียด เศร้าตามเพลง เลยเลิกฟังซะงั้น บางท่านนอนไม่หลับ ฟังเสียงสวด หลับสบายเลยนะเริ่มเบื่อกันหรือยังคะ ขอเล่าต่ออีกหน่อยอย่าเพิ่งว่ากันนะคะ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:19:42 am »
ทานอาหารให้อร่อย และสุขใจ
- เวลาท่านทานอาหาร ก่อนทาน ใช้เวลา 1 นาทีเท่านั้นค่ะ นึกภาพใครจะใหญ่เกินกรรม กำพระด้วยนะคะ (บางคนไม่ชิน ไม่ต้องกำพระโชว์เพื่อนนะคะ เอาไว้ข้างในเสื้อก็ได้ค่ะ แล้วกำพระผ่านเสื้อ ไม่ต้องหลับตานะคะ เดี๋ยวคนข้างๆ จะขำเรา ต้องทำตัวเนียนๆ ค่ะ อ๊ะๆ อย่าออกเสียงนะ ) อธิษฐานสั้นๆ ว่า "ขอให้หลวงปู่ดู่  พรหมปัญโญ และ หลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยแผ่บุญให้เจ้าของเนื้อและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเทอญ" แล้วสัพเพไปที่อาหาร 3 รอบ ผลที่ตามมาอาหารอร่อยขึ้น อิ่มบุญ วิญญาณสัตว์ในอาหารที่เราได้กินก็เปลี่ยนภพภูมิไปเป็นเทวดา อีกต่างหาก คนทำอาหารให้เราทาน ก็ได้บุญที่คุณเมตตาไปด้วย มันช่างสุขใจจริงๆ ว่ามั้ยคะ ทานอาหารได้ทำบุญไปในตัว
(ทำอย่างนี้คุณก็จะได้ ทานบารมีเพิ่ม ภาวนาบารมีเพิ่ม เป็นต้น)
แค่เดินก็ทำบุญ (คิดแล้วแนวจริงๆ ค่ะ)
- เวลาออกจากบ้านไปไหนกันบ้างคะ เซเว่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ซื้อหมูปิ้ง ซื้อลูกชิ้น ซื้อข้าวมันไก่ นั่นแหล่ะค่ะ สถานที่ทำบุญ แต่อย่าเข้าใจผิดเดินไปหาพนักงานบอก ขอทำบุญ 1 ที่ ไม่ใช่อย่างงั้นนะคะ
- ตามเดิมเลยค่ะ นึกรูปใครจะใหญ่เกินกรรม กำพระอธิษฐานสั้นๆ ว่า "ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยแผ่บุญให้เจ้าของเนื้อและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเทอญ" แล้วสัพเพไปที่สถานที่นั้น 3 รอบ แค่นี้ค่ะทำบุญให้วิญญาณเนื้อสัตว์ในนั้น และคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น พนักงานขาย พ่อค้า แม่ค้า พ่อครัว แม่ครัว เป็นต้น (อย่าไปยืนหลับตาหน้าร้านนะคะ เดี๋ยวเค้าจะนึกว่าเราบ้า)
- ถ้าขี้เกียจเดินหล่ะ ย่อมได้ค่ะ อยู่ในบ้านก็แผ่ไปสถานที่เหล่านี้ได้ นึกรูปใครจะใหญ่เกินกรรม และนึกสถานที่ที่จะแผ่ กำพระอธิษฐานสั้นๆ ว่า "ขอให้หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญและหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยแผ่บุญให้เจ้าของเนื้อและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยเทอญ" แล้วสัพเพไปที่สถานที่นั้น 3 รอบ เพียงแค่นึกก็ได้แล้ว เรียกว่า นึกทางจิตค่ะคราวนี้ถ้าอยากสัพเพ ออกเสียงก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่ถ้ากลัวคนที่บ้านไม่ชิน เข้าไปออกเสียงในห้องนํ้าได้เหมือนกัน (ไม่ได้พูดเล่นนะคะ พูดจริงๆ)
(ทำอย่างนี้คุณได้ ทานบารมี ภาวนาบารมีเพิ่ม เป็นต้นค่ะ)

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:21:44 am »
สวดมนต์กำลังเยอะ
- เคยได้ยินมั้ยคะ สองแรงดีกว่าแรงเดียว นั่นแหล่ะค่ะ ถ้ามีเพื่อน คนในครอบครัว ที่มีศรัทธาเหมือนคุณ อยากสวดมนต์เหมือนคุณ ชวนกันมานั่งสวดด้วยกัน กำลังเยอะเลยนะคะ
- ถ้าอยู่คนเดียวหล่ะ ตัวช่วยที่ benfever เคยส่งให้แล้ว (บางท่านอาจจะไม่ชอบต้องขออโหสิกรรมด้วยนะคะ แต่ถ้าใครที่ชอบสวดแบบเร็วหน่อย ก็อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ) คุณเปิดได้เลยค่ะ แล้วสวดพร้อมเสียงนะคะ กำลังสองเท่าเลยค่ะ (benfever เคยชวนญาติที่ต่างจังหวัดนั่งสวดพร้อมกัน ผลปรากฏว่า หมาหอนไม่หยุดเลยค่ะ 555 ที่หอนไม่ใช่อะไร หมาเค้าเห็นแสงบุญเวลาสวดค่ะ ) เริ่มสนุกแล้วใช่มะ อย่าลืมกำพระผงจักรพรรดิ์ ลืมตาดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม ขณะสวดมนต์ด้วยนะคะ

เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญที่จะกล่าวต่อไปนี้จำเป็นจะต้องใช้เงินวันละบาท ค่ะ

ตักบาตร delivery
1.   Print  รูปใครจะใญ่เกินกรรมออกมานะคะ
2.   นำกระปุกออมสิน 1 กระปุกมาตั้งไว้หน้ารูป
3.   หลังจากตื่นนอนตอนเช้าทุกวัน ลุกมานั่งหน้ารูปนะคะ ลืมตาดูรูปแล้วกล่าวในใจว่า “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยมารับบาตรด้วย” แวคุณหยอดเงินไปวันละบาท แล้วคุณอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการค่ะ
(แค่นี้หลวงปู่และหลวงตา ท่านมารับบาตรคุณถึงที่เลยค่ะ)
4.   เมื่อกระปุกเต็มแล้วนำไปทำบุญ จะทำยังไง รูปแบบไหน ถึงเวลามาคุยกันอีกทีนะค่ะ จะแนะนำให้คะ เพื่อจะได้ผลกลับมาหาคุณเร็วที่สุดคะ หือถ้าคุณมีที่ในใจแล้วก็ตามศรัทธาได้เลยคะ
(ทำอย่างนี้คุณจะได้ทั้งทานบารมี อธิษฐานบารมีเพิ่มค่ะ)
*** บางท่านอาจสงสัย ทำแล้วได้อะไร นั่นซิน่ะ ได้อะไร เดี๋ยวมาบอกใน เคล็ดไม่ลับในการสร้างบุญ ตอนที่ 2นะค่ะ วันนี้ขออนุญาตไปทานข้าวก่อนนะค่ะ สวัสดีค่ะ
*** อีกนิดนึงนะค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ยังแวะเวียน พูดคุยกันตลอดเวลา ตั้งแต่ได้รู้จักกันทางเมล์มาตั้งแต่ปีที่แล้ว และปีนี้ ขอบคุณที่ยังห่วงใยกัน และคอยเล่าความคืบหน้า ต่างๆให้ฟัง ไม่ลืมกันเหมือนเดิม benfever ก็ยืนยันว่าอธิษฐานให้ทุกท่าน ทุกวันเหมือนเดิม นับตั้งแต่วันแรกที่เห็นข้อความของคุณ จนถึงปัจจุบันและจะทำทุกวัน ตลอดไปคะ ถึงแม้ปัญหาต่างๆของคุณจะคลี่คลายไปแล้วก็ตาม อย่าเพิ่งเบื่อข้อความ
benfever นะค่ะ เผื่อมีข่าวสารอะไรจะได้แจ้งให้ทราบค่ะ รบกวนอยากให้เปิดอ่านกันนะคะ เพื่อประโยชน์ของทุกท่านนะค่ะ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:24:31 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญตอนที่ 2
สวัสดีค่ะทุกท่าน
บางท่านที่ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ไปแล้ว แล้วนำไปปฏิบัติตาม เช่น กําพระผงจักรพรรดิ์ขณะสวดมนต์ ภาวนา เป็นต้น
ก็เริ่มสงสัยว่าทำไมขณะกำพระ ถึงร้อน นั่นเป็นพลังงานของพระค่ะ บางท่าน รู้สึกเย็น ก็เป็นพลังงานพระเช่นเดียวกัน บางท่านขนลุก นั่นเป็นการปิติ บางท่านลองมาสังเกตดู สวด ภาวนา บทจักรพรรดิไปเรื่อย พระธาตุเสด็จเพิ่มด้วยนะคะ
มีหลายรูปแบบ เช่น เป็นเกล็ดใสๆ เป็นผลึกแก้ว เป็นเม็ดสีฟ้า เป็นสีขาวเหมือนฝ้าขึ้นเต็มกรอบพระ (ตกใจกันใหญ่ บอก benfever ว่าทำยังไงดี พระขึ้นรา ไม่ใช่นะคะ พระธรรมธาตุเสด็จมาเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติค่ะ) บางคนพระขยาย ๆ จนกรอบบวม กรอบร้าว กรอบพระแตกมาแล้วก็มี (เห็นมั้ย ไม่มีที่ไหน มีแต่ที่นี่แหล่ะค่ะ)
บางคนเริ่มแปลกใจว่าภาพใครจะใหญ่เกินกรรม ทำไม ดูไปนาน ๆ แล้วรู้สึกแปลกๆ เช่น เห็นภาพเคลื่อนไหวได้ มือหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ขยับบ้าง ตากระพริบบ้าง เห็นพระจักรพรรดิขยับบ้าง เป็นต้น (ตกใจกันใหญ่) ไม่ต้องตกใจนะคะ รูปของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยธโร มีชีวิตทุกรูปค่ะ (เริ่มสนุกกันแล้วใช่มะ)
เป็นการเล่าสู่กันฟังนะคะ ยังไม่ได้เข้าเรื่องกันเลย บางท่านสงสัยว่าสร้างบุญจบแล้วเหรอ ตอบได้เลยว่ายังไม่จบ แต่ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ กลัวจะเบื่อกันเสียก่อน
เคยเป็นมั้ยคะ เห็นใครคนนึงแล้ว ไม่ถูกชะตา โดยไม่มีสาเหตุ หรือคนบางคนไม่ชอบเรา โดยไม่มีสาเหตุ ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หรือศัตรูของเรา เพราะ คนๆ นั้นเคยเกี่ยวข้องกับเรามาก่อนในอดีตชาติค่ะ เคยเป็นศัตรูกันมา พอเกิดมาเจอกัน กระแสมันก็
มาถึงกันโดยปริยาย อ้าว !แล้วจะทำยังไง ง่ายๆ ค่ะ ทำใจ
(ล้อเล่นค่ะ) เข้าสู่หัวข้อใหม่นะคะ

ทำอย่างไรให้ถูกชะตา
- เล็งไปที่เป้าหมาย คนๆ นั้น , ศัตรู ของคุณ, คนที่คุณรัก เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน     แฟน ฯลฯ
- กําพระผงจักรพรรดิอย่าให้คนอื่นเห็น แล้วนึภหรือดู ภาพใครจะใหญ่เกินกรรม อธิษฐานในใจ “ ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยสัพเพให้เค้าเมตตาด้วย”   แล้วสัพเพ 5 ครั้ง ไปที่เป้าหมายค่ะ
เพียงเท่านี้เป้าหมายเราจะเปลี่ยนไป คนที่เห็นผลเร็วสุด ไม่ถึง 1 นาที เป้าหมายพฤติกรรมเปลี่ยนเลยค่ะ ดีกับเราซะงั้น บางรายเป้าหมาย ดีขึ้น อย่างเช่น ไม่มาหาเรื่องต่างคนต่างอยู่ เปรียบเทียบก่อนสัพเพ กระแนะกระแหน่ เราดีนัก คราวนี้ไม่ยุ่ง ให้เราหงุดหงิดใจเลย แต่อย่าสนใจว่าจะต้องเปลี่ยนภายในกี่นาที เพราะคำตอบอยู่ที่คุณ และเป้าหมาย เนื่องจากพลังงานบุญจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ส่งให้คุณเต็มร้อย คุณจะรับพลังงานบุญจากท่านได้เท่าไหร่นั้น อีกเรื่องนึง ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของคุณ คุณจิตตก เครียด หงุดหงิด ซึมเศร้า คุณก็เหมือนคนปิดประตู ไม่พร้อมที่จะรับ พลังงานบุญจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า พอส่งไปยังเป้าหมาย ถ้าเกิดเป้าหมาย อาฆาตกันมามาก ยิ่งรับได้น้อยหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้เลยนะคะ แค้นกันขนาดไหน ก็อ่อนลงค่ะ ส่วนรายที่ไม่ได้โกรธกัน ก็จะเอ็นดูเรามากขึ้น รักกันมากขึ้น พูดดีกับเรามากขึ้น เป็นต้น
(ทำอย่างนี้ คุณได้ทานบารมี อธิษฐานบารมี ภาวนาบารมี เพิ่ม เป็นต้น)
บางท่านบอกว่า” ไม่อยากแผ่บุญให้มัน (ขอโทษที่พูดไม่สุภาพ พูดตามที่ได้ยิน ) มันทำเราไว้เยอะ ไม่ต้องให้บุญมันหรอก”
ถ้าคุณแผ่บุญให้ศัตรูคุณนะคะ คุณก็จะได้เมตตาบารมีเพิ่มขึ้นอีก ถ้าคุณยอมแผ่บุญให้คนที่คุณไม่ชอบ ศัตรู ก็เป็นการอภัยให้กับพวกเค้า เป็นทานที่ยิ่งใหญ่นะคะ เป็นเมตตาที่ประเสริฐ
(เออ ก็ได้ แผ่บุญแต่ปาก แต่ใจยังแค้นอยู่ หือ..... ใจลุกเป็นไฟ สิ่งที่คุณจะได้รับ คือ การจองเวรต่อบุคคลนั้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ผลที่ตามมา จิตคุณตก เพราะทุกข์ใจกับการเอาคืน หรือสิ่งที่โดนกระทำ มันก็จะดึงกระแสกรรมในเกี่ยวกับเรื่องที่คุณคิด ให้ได้รับวิบากกรรมเร็วขึ้นอีก สมมติว่า จะเจอปัญหาอย่างนี้ได้อีก 2 เดือน กลับกลายเป็นว่า พอคิดมากที เครียด จิตตกที โดนรวบยอดให้เร็วขึ้นพร้อมกันทีเดียว เหมือนพอมีปัญหาที ไม่ใช่มีเรื่องเดียว แห่กันมาสารพัดเรื่อง ไม่เปิดโอกาสให้เราได้พักบ้างเลย ยังไม่พอค่ะ พอเกิดชาติต่อไปก็ไปมีปัญหากันอีก ไม่จบไม่สิ้น เป็นต้น
จากข้างบนที่ว่าจิตตก เครียดก็จะรับพลังงานบุญจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าได้น้อย แล้วเราจะทำยังไงดีหล่ะ นี่เลยค่ะ

 เครียดจัง ทำไงดี
- เหมือนเดิมค่ะ นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม กําพระด้วยนะค อย่าลืมเด็ดขาด แล้วอธิษฐานบอกหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยธโร เลยค่ะ
- “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยให้ข้าพเจ้าใจสงบนิ่งด้วยเทอญ” แล้วตั้งนะโม 3 จบ สวดจักรพรรดิไปเรื่อยๆ ค่ะ
ไม่เกิน 1 นาที เดี๋ยวดีขึ้นค่ะ

ปัญหาสุมหัว ใครจะช่วยได้
- หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ช่วยได้ค่ะ ทำไมหล่ะ (เพราะท่านเป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็มค่ะ อ้าว! จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นจริง คุณสวด ภาวนาไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลา คุณจะทราบด้วยตัวเองค่ะ)
- คุณดูหรือนึกรูปใครจะใหญ่เกินกรรม แล้วพูดออกมาเลย พูดกับรูปนั่นแหล่ะค่ะ ท่านได้ยิน ท่านรับรู้ค่ะ ว่าคุณต้องการอะไร ท่านจะได้ช่วยคุณได้ง่ายๆ benfever ชอบพูดประจำ “หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า วันนี้ขอเงินสดไว้ใช้ด้วย , หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ช่วยให้ได้ที่จอดรถด้วย ,หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ช่วยด้วยปวดท้อง , หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ช่วยยุติปัญหาทุก ๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าด้วย เป็นต้น
- กําพระ ตั้งนะโม 3 จบ สวดหรือภาวนาจักรพรรดิ 1 จบ หรือสวดไปเรื่อยแล้วแต่ตัวคุณเลยค่ะ สิ่งที่คุณพูดไป ไม่พูดเปล่านะคะ ปัญหาที่คุณพูดคลี่คลายนะ ลองพิสูจน์ดู
(ทำอย่างนี้ คุณจะได้อธิษฐานบารมีเพิ่ม ภาวนาบารมีเพิ่ม สมาธิเพิ่ม เป็นต้น)

บางคนสงสัยว่า ทำไมทำตามที่ benfever บอกแล้วไม่เห็นผลหล่ะ อันดับแรกค่ะ ความศรัทธา เป็นตัวหลักเลย คุณเชื่อในบารมีของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร จริงหรือเปล่า คุณเชื่อในอนุภาพของพระผงจักรพรรดิจริงหรือเปล่า ถ้าคุณไม่เชื่อในพระผงจักรพรรดิ์ที่ได้ไปก็เป็นแค่พระปูนธรรมดาสำหรับใจคุณเท่านั้นเองค่ะ แต่ถึงยังไงพระผงจักรพรรดิก็มีอานุภาพมากมายเหมือนเดิมค่ะ ถึงแม้ผู้ครอบครองจะไม่เชื่อก็ตาม คุณเชื่อในคำสอนที่ท่านแนะนำจริงหรือเปล่า คุณเชื่อในกฏแห่งกรรมมั้ย เป็นต้น
พูดถึงพระผงจักรพรรดิที่ได้รับไป บางท่านพระไปถึงบ้านแล้วเปิดมาดู ปรากฏว่าพระแตกเสียหาย ต้องขออภัยด้วยนะคะ ยังไม่มีงบเพียงพอสำหรับเลี่ยมพระให้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ (แล้วทำยังไงดีหล่ะ ได้รับพระแตกพระหัก จะไม่ดี benfever ขอแจ้งให้ทราบเลยว่าไม่จริงนะคะ ไม่เกี่ยวกันค่ะ ถึงแม้พระผงจักรพรรดิ์จะแตกแต่อนุภาพมากมายมหาศาลเท่าเดิมค่ะ เวลาพระผงจักรพรรดิ์แตก หรือหัก benfever ชอบทากาวติดพระเหมือนเดิม เราก็ได้อานิสงค์การซ่อมพระ บูรณะพระไปด้วยนะคะ
แต่ถ้าไม่สบายใจ ต้องขออโหสิกรรมด้วยนะคะ และรบกวนส่งพระกลับมานะคะ แล้วจะโอนค่าใช้จ่ายในการส่งพระผงจักรพรรดิ์ไปให้
และขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่พบเจอปาฏิหารย์ เจอเรื่องอัศจรรย์ใจ ตั้งแต่วันแรกที่สวดมนต์ หรือวันแรกที่ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ หรือได้เห็นภาพใครจะใหญ่เกินกรรม หรือได้เห็นชื่อหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยธโร นะคะ สาธุ สาธุค่ะ
ไว้มาต่อ เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 3 นะคะ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:25:57 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 3
สวัสดีค่ะ ทุกท่าน
หลังจากที่เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 ออกไปแล้วนั้น หลายท่านชื่นชอบ สนุกกับการอ่าน เนื่องจากปฏิบัติได้จริง เห็นผลจริง benfever ก็ต้องขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ บางท่านเมลมาเล่าด้วยความดีใจ ที่เห็นผลจริงๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับพระผงจักรพรรดิ์เลยด้วยซํ้า แค่อธิษฐาน สวดมนต์ตามที่แนะนำ ก็เกิดผลแล้ว อ้าว! อย่างนี้แสดงว่าไม่ต้องรับพระผงจักรพรรดิแล้วใช่มั้ย ขอตอบนะคะ ว่าไม่ใช่ เพราะโดยปกติคนเราไม่สามารถระลึกถึงพระได้ตลอด 24 ชม. เพราะเรายังมีกิเลสกันอยู่ จึงควรจะมีพระเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ท่านระลึกถึงพระได้ง่ายขึ้นค่ะ
หลายท่านเมลมาขอพระผงจักรพรรดิ์ไปแจก ญาติสนิทมิตรสหาย หลายท่านขอนำไฟล์รูปใครจะใหญ่เกินกรรม ,ไฟล์บทสวด, ไฟล์เสียงสวด, ไฟล์เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ เป็นต้น ไปแจกต่อ ทุกท่านรู้มั้ยคะ ว่าท่านกำลังได้รับบุญบารมีเพิ่ม (เอ๊ะ!...ยังไงกัน) แค่เพียงท่านคิดจะแจกพระ หรือส่งไฟล์ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยเจตนาดีอันบริสุทธิ์ ปรารถนาจะให้คนที่ท่านแจกได้พ้นทุกข์ ได้พบทางสว่าง ได้เห็นเหมือนที่ท่านเห็น เป็นต้น แค่นี้ท่านก็จะได้รับเมตตาบารมีเพิ่มขึ้นแล้วค่ะ เมื่อท่านแจกพระ หรือส่งไฟล์ไปให้ผู้นั้น ท่านก็จะได้ทานบารมีเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ แต่ยัง...ยังไม่พอ แค่นี้น้อยไปค่ะ ถ้าบุคคลที่ได้รับจากท่าน นำพระไปกำทำสมาธิ ท่านก็ได้เนกขัมมะบารมีเพิ่มขึ้นอีก แล้วถ้าบุคคลนั้นไปอธิษฐานกับรูปใครจะใหญ่เกินกรรมอีก ท่านก็จะได้อธิษฐานบารมีเพิ่ม แล้วถ้าบุคคลนั้นนำไปแจกต่อ ท่านก็จะได้ทั้งทานบารมี และเมตตาบารมีเพิ่ม
แล้วถ้าคนนั้นปฏิบัติอธิษฐาน ถือศีล ท่านก็ได้ศีลบารมีเพิ่มขึ้นอีกนะคะ เพราะท่านเป็นต้นเหตุแห่งความดี ต้นเหตุแห่งบุญค่ะ (คล้ายลูกโซ่ MLM) แต่มีด้านดีก็ต้องมีด้านลบให้ระวังกันสักหน่อยนะคะ เวลาจะแจกพระใครก็ต้องดูด้วย
แจกอย่างไรให้สนุก
ก่อนอื่นเวลาคุณจะแจกพระผงจักรพรรดิ์ คุณต้องดู หรือนึก รูปใครจะใหญ่เกินกรรม หรือหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า แล้วแต่คุณถนัด แล้วอธิษฐานว่า "ขอให้หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ช่วยให้ภูมิเทวดา เทพพรหมเทวา เทวดาทุกๆ พระองค์ที่อยู่รอบตัวคนที่จะแจกพระ หรือที่ปกปักษ์รักษาคนในครอบครัวและบ้านหลังนี้ ดลใจให้คนที่จะแจกพระหรือคนในบ้านศรัทธาในพระผงจักรพรรดิ์ เลื่อมใสในหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า และสวดจักรพรรดิ์ทุกวันโดยฉับพลัน" ประมาณนี้ค่ะ แล้วคุณสัพเพ 3 ครั้งไปที่คนที่คุณต้องการจะแจก หรือบ้านหลังนั้นที่คนที่แจกอยู่ จะศรัทธาแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างเช่น
1. ตัวคุณ เพราะพลังงานจากรูปที่คุณดูหรือนึก (พลังงานจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า) ส่งให้คุณเต็มร้อย แต่คุณรับได้เท่าไหร่นั้น คืออีกเรื่องนึง
2. คนที่คุณจะนำพระไปแจก เชื่อไม่เชื่ออยู่ที่บุญกรรมเค้าด้วย บางคนรับพระแต่ไม่เชื่อด้วยซํ้า ตั้งใจจะปฏิเสธ แต่พอเราสัพเพไป จากไม่เชื่อเปลี่ยนมาเป็นรับพระไว้ก่อน ไม่ปฏิเสธ แต่ยังไม่สวดนะคะ ไปวางไว้บูชา หรือวางไว้เฉยๆ เท่านั้น คราวนี้พอคุณสวดมนต์ สวดจักรพรรดิ์ พลังจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ผ่านมาที่ตัวคุณ ส่งต่อไปยังพระผงจักรพรรดิ์ รูปใครจะใหญ่เกินกรรม จะดลใจให้คนที่อยู่รอบบริเวณนั้นศรัทธา เกิดอยากสวมพระ หรืออยากสวดมนต์ขึ้นมาค่ะ แต่ต้องใช้เวลาแล้วแต่คน บางคนอาทิตย์นึง บางคนเป็นเดือน บางคนหลายปี แต่คุณไม่ต้องสนใจ ทำส่วนของคุณไป ช้าเร็วคนที่คุณแจกก็จะสวดและสวมพระค่ะ
ถ้าเกิดไม่อธิษฐานก่อนไปแจกบางทีคนไม่รับพระ ปรามาสพระอีก บาปที่เราด้วย เพราะ เราเป็นตัวต้นเหตุค่ะ จะแจกพระต้องดูคนด้ วยค่ะ เห็นมั้ยคะ บุญง่ายๆ อยู่รอบตัวเรา ไม่ต้องเสียเวลาไปหามาจากไหน หาจากรอบตัวเราแค่นั้นเอง ใช้ให้ถูกวิธี
ก็ได้บุญเพียบค่ะในตอนที่ 1 บางท่านสงสัยว่าเรื่องสวดในใจก็ภาวนาแล้วและเรื่องแค่เดินก็ทำบุญ มีเป็นการสร้างบุญได้เพียงเท่านี้หรือ no no no ไม่ใช่ค่ะ ทุกท่านประยุกต์เพิ่มเติมเข้าไปอีกนะคะ ตามหัวข้อนี้เลยค่ะ

เรื่องเดินธรรมดาทำไมมาเดินจงกลมกันดีว่า
- ก่อนทุกท่านจะไปยังสถานที่ที่ต้องการ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซเว่น ร้านค้า ร้านขายยา ร้านข้าวมันไก่ เป็นต้น ระหว่างทางที่ต้องไปท่าน ต้องเดินถูกมั้ยคะ นั่นไง
- เหมือนเดิมค่ะ นึกรูปใครจะใหญ่เกินกรรมให้ ออก ขณะเดิน (บางท่านสงสัยยั งนึกไม่คล่อง นึกได้แป๊ปนึงลืมแล้วก็ ไม่เป็นไรค่ะ ตอนที่ลืมก็หยิบรูปที่พกมาดูซะเลย กลัวไม่เนียนโหลดใส่หน้าจอมือถือ เปิดดูเลยค่ะ ดู 3 วินาที แล้วนึกต่อ)
- อ๊ะๆ ลืมอะไรกันหรือเปล่าคะ กําพระด้วย กําเนียนๆนะคะ (ถ้าไม่สะดวกก็ นึกถึงรูปไปก่อนนะคะ) อย่าหลับตานะคะ เดินชนขึ้นมาจะมาโทษกันไม่ได้นะคะ บอกไว้ ก่อน
- แล้วก็ ภาวนาจักรพรรดิตามเดิม แค่นี้เสร็จเรียบร้อย
(ทำอย่างนี้ได้ อานิสงส์ เดินจงกรมเลยนะคะ ได้ ภาวนาบารมีเพิ่ม สมาธิเพิ่มขึ้นด้วย เป็นต้น)
เห็นมั้ยคะ คนอื่นได้ ไปมัวแต่คิด “จะกินอะไร จะซื้ออะไรดี “ เกิดบุญซะที่ไหน เดินแบบ นี้ถึงที่หมายเหมือนกัน ได้บุญเพิ่มขึ้นอีก สนุกกว่าตั้งเยอะ
สุดท้ายนี้ benfever ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ สาธุ ค่ะ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:31:07 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 4
หลายท่านสงสัยว่า การปฏิบัติตามสายของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และ หลวงตาม้า วิริยธโร เป็นสายไหน มีจริงหรือ หลอกลวงมั้ย เพราะไม่เคยได้ยินแบบนี้ benfever ขอสรุปให้เข้าใจกันง่ายๆ นะคะ ว่า การปฏิบัติตามสายหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เป็นการปฏิบัติตามสายโพธิญาณ , โพธิสัตว์ค่ะ หรืออาจจะเรียกว่าพุทธภูมิ เป็นต้นค่ะ เน้นช่วย 3 โลก เช่น สวรรค์ นรก โลกมนุษย์ ส่วนการปฏิบัติตามสายหลวงปู่มั่น เป็นต้น เป็นสายกรรมฐาน ยึดแนวการภาวนา เพื่อไปนิพพาน จะแตกต่างจากสายหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เพราะคนส่วนใหญ่ที่เป็นศิษย์ท่าน จะยังไม่ปรารถนาไปนิพพานค่ะ ยังต้องการที่จะลงมาช่วยโลกมนุษย์กันก่อน (พอจะเห็นภาพนะคะ)
มีบางท่านสงสัยว่าที่เคยได้ยินมาไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ ได้ยินมาจากศิษย์หลวงตาม้าเหมือนกัน benfever ขออนุญาตแนะนำคุณนะคะว่า มีอะไรสงสัยการปฏิบัติ หรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามีโอกาสเจอกับหลวงตาม้า ถามท่านโดยตรงเลยนะคะ เพราะทุกท่านที่กล่าวว่าตัวเองเป็นศิษย์ ก็มีอาจารย์คนเดียวกัน คือหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ถูกมั้ยคะ สิ่งที่เค้านำมาถ่ายทอดให้คุณได้รับรู้ ไขข้อข้องใจนั้น ก็มาจากหลวงตาม้าทั้งสิ้น ถ้าศิษย์คนนั้นได้ถามท่านจริงๆ นะคะ ส่วนเมื่อถามแล้ว เข้าใจในสิ่งที่หลวงตาม้าท่านอธิบายหรือเปล่า นั่นก็อีกเรื่องนึง หรือถ้าไม่ได้ถามแต่ตอบเอง อันนี้ก็อีกเรื่องนึงนะคะ ด้วยเหตุนี้เอง อาจทำให้ได้รับข้อมูลผิดๆ ปฏิบัติแบบผิดๆ (อันนี้ก็บาปทั้งคนบอก และคนรับอีกนั่นแหล่ะ)
บางท่านก็สงสัยว่า คำถามบางคำถาม เวลาหลวงตาม้าท่านตอบเวลาถามที่กรุงเทพ (บ้านลูกศิษย์) กับถามตัวต่อตัวจะไม่เหมือนกัน เพราะถามที่กรุงเทพ หรือสถานที่ที่มีลูกศิษย์มาก พื้นฐานแต่ละคนมาไม่เท่ากัน เกิดได้ยินแล้วไม่เข้าใจ เกิดปรามาสพระ จะบาปเปล่าๆ หลวงตาม้าท่านเลยจะตอบแบบกลางๆ เพื่อไม่ให้ลูกศิษย์ ปรามาสพระค่ะ แต่ถ้าคุณสงสัยอะไรแล้วไปถามที่วัดเลยนะคะ ยกตัวอย่างนะคะ benfever เวลาสงสัยนะคะ จะจดไว้เป็นข้อๆ นานๆ ไปเจอท่านทีก็จะไปพร้อมกับคำถามเป็นร้อยข้อ ถามตัวต่อตัวเลยค่ะ อันนี้ได้รับคำตอบจริงๆ คุณจะได้คำตอบแบบตรงๆ สำหรับคุณเลยค่ะ (อันนี้เล่าจากประสบการณ์ให้ฟังนะคะ ถ้าไม่ถูกใจใครก็ขออโหสิกรรมด้วยนะคะ)
ส่วนบางท่านที่ติดใจ ถูกใจ กับเคล็ดไม่ลับ ตอนต่างๆ อย่ามัวอ่านจนเพลินนะคะ อย่าปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ปฏิบัติควบคู่ไปด้วยนะคะ ท่านใดไม่มีไฟล์เสียง แจ้งเมล์มานะคะ ส่งไฟล์ให้นะคะ
ไฟล์เสียงนี้จะแตกต่างจากที่อื่น เนื่องจากมีบทสวดมนต์ของหลวงตาม้าเพิ่มเข้าไปด้วยนะคะ และสวดเร็วกว่าที่อื่น (คาดว่า) ต้องขอแจ้งไว้ก่อน และท่านใดที่เริ่มปฏิบัติ เช่น สวดมนต์ ภาวนา ทำสมาธิ ฯลฯ ทุกท่านจะก้าวหน้าขึ้น แล้วก็จะมีข้อสงสัยกันมากขึ้นไปอีก ถ้ามีโอกาสได้ไปกราบหลวงตาม้าที่ วัดพุทธพรหมปัญโญ ก็ลองถามท่านนะคะ ท่านเมตตามากค่ะ และท่านใดที่เคยรู้ว่าการปฏิบัติเหล่านี้จะได้วิชาพิเศษอะไร นั่นมาคุยกันเป็นคนๆ ไปนะคะ อย่าใจร้อน เริ่มปฏิบัติไป มีอะไรสนุกอีกเยอะเลยค่ะ
ทุกท่านทราบมั้ยคะว่า ทุกท่านมีของเก่าติดตัว แต่ละท่านเกิดกันมากี่ชาติ ต่อกี่ชาติแล้ว แต่ละชาติก็ปฏิบัติกันมามากน้อยแตกต่างกัน พอมาชาตินี้ บางท่านปฏิบัติไม่ถึงอาทิตย์ก้าวหน้าเยอะมาก บางท่านไม่ถึงเดือน บางท่านไม่ถึงปี เพราะฉะนั้น อย่าละทิ้ง
การปฏิบัติ เช่น สวดมนต์ ภาวนา และทำตามวิธีปฏิบัติในเคล็ดไม่ลับนะคะ เดี๋ยวมีอะไรสนุกๆ ตามมาอีกเพียบ ถึงเวลานั้นแล้วเรามาเมล์มาคุยกันนะคะ
พิมพ์ซะยาวเลย อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ทุกท่านเคยคิดอยากจะถวายหลอดไฟ หรือจุดตะเกียง ที่วัดเพื่อความสว่าง ความก้าวหน้าตามความเชื่อที่เคยได้ยินกันมามั้ยคะ แต่ทำยังไงน้า.......กว่าจะเลิกงานก็ดึกซะละ ไปทำบุญไม่ทันกันพอดี เข้าสู่หัวข้อเลยนะคะ
                 
เปิดเมื่อไหร่ จุดเมื่อไหร่ เห็นเมื่อไหร่ ถวายเมื่อนั้น
- เวลาจะเข้าห้องนํ้า ห้องนอน เป็นต้น ทุกท่านต้องเปิดสวิตซ์ไฟใช่มั้ยคะ คนอื่นเปิดธรรมดา
- แต่เรานึกหรือดู ภาพใครจะใหญ่เกินกรรม (ถ้าดูได้นะคะ)
- กําพระผงจักรพรรดิ์ด้วยนะคะ
- อธิษฐานในใจว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา”
เพียงเท่านี้ทุกท่านก็ได้ถวายดวงไฟแล้วค่ะ วิธีลัดสำหรับท่านที่ไม่สะดวกไปวัดนะคะ แล้วที่ว่าจุดเมื่อไหร่ คืออะไร หมายถึง จุดเทียนเวลาไหว้พระ หรือจุดเทียนเนื่องจากโอกาสอะไรก็แล้วแต่ อธิษฐานแบบด้วยกันเลยนะคะ เอ๊ะ! เห็นเมื่อไหร่ คืออะไร อ๋อ หมายถึง เห็นดวงอาทิตย์ค่ะ เวลาเห็นดวงอาทิตย์ก็อธิษฐานในใจไปด้วยนะคะ เห็นมั้ยคะแค่นี้ก็ทำบุญไปในตัวแล้ว
ตอนนี้ขอลาเพียงเท่านี้ก็นะคะ แล้วจะมาเขียนกันใหม่ พอดีมีธุระต้องรีบทำค่ะ บางท่านอาจหงุดหงิดใจ ที่เห็นเคล็ดไม่ลับตอนนี้ ยังไม่จุใจ ถ้าหงุดหงิดต้องทำยังไงคะ ลืมกันหรือยังคะ เหมือนเดิมค่ะ
นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม
กำพระด้วยนะคะ อย่าลืมเด็ดขาด แล้วอธิษฐานบอกหลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยธโร เลยค่ะ
- “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยให้ข้าพเจ้าใจสงบนิ่งด้วยเทอญ” แล้วตั้งนะโม 3 จบ สวดจักรพรรดิไปเรื่อยๆ ค่ะ
ไม่เกิน 1 นาที เดี๋ยวดีขึ้นค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ สาธุ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:32:55 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 5
นับตั้งแต่เมื่อวานได้ทยอยจัดส่งพระผงจักรพรรดิ์ ตามที่แจ้งมาให้กับทุกคนแล้วนะคะ แต่จัดส่งกันแบบธรรมดา ไม่ได้ลงทะเบียน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย บางท่านอาจถึงช้า บางท่านอาจถึงเร็ว พอวันอาทิตย์หน้า หรือ อีก 2 อาทิตย์ ท่านใดยังไม่ได้รับจดหมาย จาก benfever ช่วยแจ้งที่อยู่ และจำนวนพระผงจักรพรรดิ์ที่ต้องการกลับมาอีกครั้งนะคะ ส่วนท่านใดที่แจ้งรับนํ้ามนต์ด้วย ที่ส่งให้ไปเป็นหัวเชื้อนํ้ามนต์จักรพรรดิ์ ใส่ในขวดเล็ก เพื่อที่จะสะดวกในการใส่ซองจดหมายได้ ขวดเล็กแต่ไม่ธรรมดานะคะ ต้องแจ้งไว้ก่อน แล้วเมื่อได้รับแล้วแจ้งกลับมาด้วยนะคะ จะสอนวิธีใช้นํ้ามนต์ให้ค่ะ
จากตอนที่ 4 ที่เราไปวัดกันมาช่วงท้าย คราวนี้ก็เกิดนึกขึ้นได้ว่า คนไปวัดส่วนใหญ่ไปทำอะไร แน่นอนค่ะ ไปบนบานศาลกล่าว แล้วทำยังไงดีหล่ะ วัดก็ไปไม่ทัน เราก็มาใช้วิธีลัดง่ายๆ เข้าหัวข้อใหม่กันเลยนะคะ

บนอย่างไรให้เป็นสัจจะ
โดยปกติทุกท่านที่ต้องการบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ท่านต้องเตรียมอะไรกันบ้างค่ะ ธูป เทียน ดอกไม้ หัวหมู ไข่ต้ม เป็นต้น แต่คราวนี้ถ้าท่านไม่สะดวกในการเตรียมของ เนื่องจากเหตุผลต่างๆ ลองเปลี่ยนเป็นใช้วิธี ตั้งสัจจะแทนเพื่อแลกในสิ่งที่ต้องการค่ะ เหมือนเดิมนะคะ จำกันได้แล้วใช้มั้ยว่าต้องเริ่มจากอะไร
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ์ด้วยนะคะ ไม่จำเป็นต้องถอดออกจากสร้อยคอนะคะ สร้อยพระผงจักรพรรดิ์ก็สวมไว้ที่คอเหมือนเดิม เพียงแต่กําพระไว้ในมือ เพื่อให้ระลึกถึงพระเท่านั้น
- อธิษฐานในใจ “ ด้วยสัจจะอธิษฐานที่ข้าพเจ้าจะ (ปฏิบัติตามที่คุณคิดว่าจะทำ เช่น สวดจักรพรรดิ์วันละ 108 จบ เป็นเวลา 7 วัน , สวดบทสวดหลวงปู่ดู่ วันละ 108 จบ เป็นเวลา 7 วัน , นั่งสมาธิ หรือทำสมาธิ วันละ 3 นาที เป็นเวลา 1 เดือน , ภาวนาจักรพรรดิ์ วันละ 10 นาที เป็นเวลา 7 วัน เป็นต้น) ด้วยสัจจะอธิษฐานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้ งาน โดยฉับพลัน, ได้เงินมาปิดหนี้บางส่วน ด้วยเทอญ เป็นต้น
การปฏิบัติตามนี้ เป็นการใช้บุญบารมีของคุณแลก ไม่ต้องใช้สิ่งของใดๆ แลก แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายอีกต่างหาก บางท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วอย่างนี้จะอธิษฐานตั้งไว้ก่อน แล้วให้เกิดผลก่อนแล้วค่อยทำ หรือว่ายังไง benfever ขอแนะนำว่า ปฏิบัติไปเลยค่ะ ตั้งสัจจะวันนี้ก็เริ่มทำได้เลย เพราะเราใช้บุญที่เราสร้างเองช่วยอีกทาง
ผลจากการที่ปฏิบัติ บางรายอธิษฐานตั้งสัจจะและปฏิบัติเลย วันรุ่งขึ้นมีข่าวดีในสิ่งที่ปรารถนา บางราย 2 วันบ้าง 2 อาทิตย์บ้าง เป็นเดือนก็มีแต่ก็เร็วกว่าที่คาด แทบทุกคน
ทุกท่านคะ ตอนนี้เรากําลังพูดเกี่ยวกับวัด มีการถวายไฟฟ้าแล้ว มีการตั้งสัจจะแล้ว ก็ย่อมต้องมีถวายดอกไม้บ้าง แต่ทำยังไง ไปวัดไม่ทัน ใช้ตัวช่วยนะคะ เวลานั่งรถอยู่บนถนน เคยเห็นคนขายพวงมาลัยมั้ยคะ เคยเห็นสระบัวกันบ้างมั้ยคะ เคยเห็นต้นไม้ที่คนเค้าปลูกสวยๆ มั้ยคะ นั่นแหล่ะค่ะ แหล่งทำบุญแหล่งใหม่

อยู่บนถนนก็ถวายดอกไม้ได้
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ์
- อธิษฐานในใจนะคะ “พุทธะสะ ธัมมะสะ สังฆะสะ ปูเชมิ”
แค่นี้ก็ได้ถวายดอกไม้แล้ว ถ้าคุณถวายดอกไม้แล้ว ก็เผื่อแผ่บุญให้กับคนขายพวงมาลัย คนร้อยดอกพวงมาลัย เป็นต้นด้วยนะคะ โดยการ
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ์
- อธิษฐานในใจ “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยแผ่บุญให้กับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของพวงมาลัยนี้ด้วยเทอญ “
- สัพเพ ไปที่ คนขายพวงมาลัย หรือคนร้อยพวงมาลัย 3 รอบก็ได้แล้วค่ะ

บางท่านเล่าสู่กันฟังว่า ทำไมยิ่งสวดยิ่งฝันไม่ดี บางทีไม่อยากนอนเลย ไม่สบายใจเลย ต้องขอชี้แจงนิดนึงนะคะ ถ้าฝันนั้นไม่ได้อุปทานจากการคิดมาก วิตกเกินไป สิ่งที่ฝันร้ายนั้น เป็นการใช้กรรมในฝันค่ะ หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ท่านทำให้คุณเห็นว่าจริงๆ จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น แต่ท่านสวดจักรพรรดิ์ ภาวนาจักรพรรดิ์ สวดมนต์ตามที่แนบไฟล์ไป เลยใช้กรรมในฝันแทน (เริ่มสนุกกันแล้วใช้มั้ยคะ ถ้าท่านได้กล่าวฝากดวงแล้ว สบายใจได้ค่ะ หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า จัดการปัญหาให้ท่าน ดูแลท่านแม้กระทั่งนอน)
บางท่านก็ยังสงสัยอีกว่าทำไม benfever ถึงพยายามยํ้านักยํ้าหนาให้สวมพระผงจักรพรรดิไว้ที่คอตลอดเวลา และให้นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกับกำพระผงจักรพรรดิ์ แล้วสวดหรือภาวนาบทจักรพรรดิระหว่างวัน ถ้าสุดวิสัยให้เปิดเสียงสวดแล้วสวดในใจพร้อมกัน เนื่องจากอานุภาพของพระผงจักรพรรดิ์ และบทสวดจักรพรรดิ์อีกอย่างนึงนะคะ เป็นเทคนิคเล็กน้อย เมื่อใดก็ตามที่สวดจักรพรรดิ์จะมีเกราะแก้ว 7 ชั้นคลุมตัวผู้สวดค่ะ และถ้าขณะสวดมีคนคิดปองร้าย หรือทำคุณไสยใส่ผู้สวด เป็นต้น สิ่งที่ส่งมายังผู้สวด หรือสิ่งที่ตั้งใจจะทำร้ายผู้สวดนั้น จะเด้งกลับไปหาผู้ส่งฉับพลันค่ะ และผู้ที่สวมพระผงจักรพรรดิ์ มนต์ดำก็ไม่สามารถทำอะไรได้ คุณไสยก็เล่นงานไม่ได้ ผีก็ไม่เข้า แต่ถ้าถอดออก หรืออาจมีปัจจัยอื่นๆ ก็ต้องมาคุยกันเป็นรายๆ ไปค่ะ ในตอนนี้ก็ขอพักไว้เท่านี้ก่อนนะคะ แล้วอย่าลืมปฏิบัติตามกันด้วยนะคะ ตอนต่อไปมาคุยกันเรื่องการทำผิดศีล กันนะคะ
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:34:33 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 6
ความเดิมตอนท้ายตอนที่ 5 ได้ทิ้งท้ายเรื่อง การทำผิดศีล ปัจจุบันเราไม่สามารถที่จะรักษาศีล 5 ได้ตลอดเวลาถูกมั้ยคะ เพราะเราต้องทำงาน เรายังมีกิเลส บางทีต้องยอมผิดศีลในสถานการณ์ที่จำเป็น แล้วจะทำยังไงดี แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรักษาศีล 5 ให้ได้ครบตลอด 24 ชม. (ทำความเข้าใจกันก่อนนะคะ อธิบายแค่เบื้องต้นเท่านั้น เจาะลึกต้องถามหลวงตาม้าท่านเองนะคะ)

ศีลข้อที่ 1
ถ้าท่านใดกระทำการใดๆ ที่เป็นการผิดศีลข้อนี้ เช่น ฆ่ามด ตบยุง ฆ่าสัตว์เพื่อจะกินตาของสัตว์นั้นเป็นอาหาร เป็นต้น สมมติว่าพอท่านได้อ่านเคล็ดไม่ลับตอนที่ 6 จบ ท่านไปฆ่ามดเข้า วิบากกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับศีลข้อนี้ ที่ท่านได้เคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ก็เร่งให้ทำได้รับวิบากกรรมเหล่านั้นเร็วขึ้น ยกตัวอย่าง คนที่เคยฆ่าสัตว์แล้วเอาลูกตาสัตว์มากินเป็นอาหาร เช่น ปลา เป็นต้น ผลกรรมที่ได้รับก็จะทำให้สายตาสั้นบ้าง เป็นโรคเกี่ยวกับสายตาบ้าง แล้วแต่กรณีไป บางคนทุบปลา ก็จะปวดหัวบ้าง เป็นโรคเกี่ยวกับสมองบ้าง เป็นต้น
ถ้าเกิดท่านผิดศีลข้อนี้โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ให้ท่าน
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ
กล่าวอาราธนาเฉพาะประโยคนี้ “ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” หลังจากกระทำผิดศีลทันทีเมื่อรู้ตัว


ศีลข้อที่ 2
ถ้าท่านใดกระทำการใดๆ ที่เป็นการผิดศีลข้อนี้ เช่น ลักขโมย เป็นต้น บางคนอาจจะเข้าแค่ว่า วิ่งราว ขโมยของเท่านั้น แต่ทุกท่านทราบมั้ยคะว่าโดยส่วนใหญ่เราผิดข้อนี้โดยไม่เจตนาแทบทุกวัน ยกตัวอย่างนะคะ หยิบของในบ้านที่เราไม่ได้เป็นคนซื้อมาใช้ มากิน โดยที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตอาจจะเป็นเพราะความเคยชินตั้งแต่เด็ก บางทีหยิบของที่แม่ซื้อมา เอาไปใช้ หยิบขนมที่แม่ซื้อมา ไปกินโดยไม่ได้ขออนุญาตแม่ก่อน เพราะคิดว่าแม่ลูกกันไม่เป็นไร บางทีหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์พ่อแม่ ไปใช้จ่ายค่าอะไรก็แล้วแต่ โดยที่ไม่ได้ขออนุญาต บางทีเงินที่หยิบมาพ่อแม่ตั้งใจนำไปทำบุญแต่เราเผลอหยิบไปก่อน บางทีหยิบของใช้สำนักงานที่ทำงานติดกลับมาใช้ที่บ้าน เช่น กระดาษ ปากกา สมุด ดินสอ เป็นต้น ท่านที่ทำการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อนี้ในปัจจุบัน ก็จะดึงวิบากกรรมที่เราได้เคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้เราได้รับผลกรรมเร็วขึ้น ทำให้เราติดขัดเรื่องเงิน เช่นเป็นหนี้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ถูกโกง เป็นต้น
ถ้าเกิดท่านผิดศีลข้อนี้โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ให้ท่าน
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ์
กล่าวอาราธนาเฉพาะประโยคนี้ “อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” หลังจากกระทำผิดศีลทันทีเมื่อรู้ตัว

ศีลข้อ 3
หลายท่านสงสัยว่า “อะพัมมจริยา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” ต่างจาก “กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” ยังไง ต่างกันตรงที่ “อะพัมมจริยา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” จะเป็นศีลที่ละเอียดกว่า คือ ขั้นอุกฤษณ์ (ขั้นสูงสุดค่ะ) ที่หลวงตาม้า ท่านให้อาราธนาบทนี้เนื่องจากว่าผู้สวดจะได้มีบารมีมากกว่าอาราธนา “กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” ค่ะ บางท่านก็เริ่มสงสัยว่า แล้วการกระทำใดที่เรียกว่า เป็นการผิดศีลข้อ “อะพัมมจริยา ...........” เช่น ช่วยตัวเอง เสพกามคู่สามีภรรยาตัวเอง หรือไม่ใช่ก็ตาม เป็นต้น ท่านที่ทำการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อนี้ในปัจจุบัน ก็จะดึงวิบากกรรมที่เราได้เคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้เราได้รับผลกรรมเร็วขึ้น ทำให้คู่รักนอกใจ ไม่คนที่ไม่มีคนเมตตา ไม่มีคนรัก เป็นต้น
ถ้าเกิดท่านผิดศีลข้อนี้โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ให้ท่าน
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ
กล่าวอาราธนาเฉพาะประโยคนี้ “อะพัมมจริยา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” หลังจากกระทำผิดศีลทันทีเมื่อรู้ตัว

ศีลข้อ 4
ถ้าท่านใดกระทำการใดๆ ที่เป็นการผิดศีลข้อนี้ เช่น โกหก พูดใส่ร้ายป้ายสี ส่อเสียด นินทา เป็นต้น ท่านที่ทำการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อนี้ในปัจจุบัน ก็จะดึงวิบากกรรมที่เราได้เคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้เราได้รับผลกรรมเร็วขึ้น เช่น พูดอะไรก็ไม่น่าเชื่อถือ ถึงแม้จะพูดความจริงก็ตาม เป็นต้น
ถ้าเกิดท่านผิดศีลข้อนี้โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ให้ท่าน
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ์
กล่าวอาราธนาเฉพาะประโยคนี้ “มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” หลังจากกระทำผิดศีลทันทีเมื่อรู้ตัว

ศีลข้อ  5
ถ้าท่านใดกระทำการใดๆ ที่เป็นการผิดศีลข้อนี้ เช่น ขายเหล้า ดื่มเหล้า ผลิตเหล้า หรือของมึนเมา เป็นต้น ท่านที่ทำการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อนี้ในปัจจุบัน ก็จะดึงวิบากกรรมที่เราได้เคยทำมาตั้งแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้เราได้รับผลกรรมเร็วขึ้น เช่น ไม่มีสติ ใครแนะนำอะไรก็เห็นผิดเป็นถูก หนักเข้าก็เป็นบ้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับผลกรรมที่ได้เคยสร้างไว้ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน
ถ้าเกิดท่านผิดศีลข้อนี้โดยตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ให้ท่าน
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ
กล่าวอาราธนาเฉพาะประโยคนี้ “สุราเมระยะ มัชชะปะมา ทัฎฐานา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ” หลังจากกระทำผิดศีลทันทีเมื่อรู้ตัว
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เมื่อกล่าวตามนี้แล้วจะไม่ต้องรับวิบากกรรมที่เคยทำทั้งหมดนะคะ ยังไงก็ต้องรับ แต่ถ้าท่านหมั่นสวดมนต์ ภาวนา ทำสมาธิ หรือทำตามวิธีเคล็ดไม่ลับ เป็นต้น ก็จะเป็นการเพิ่มบุญให้ทุกท่านเข้าไปอีก เพื่อจะได้มาช่วยให้กรรมหนักที่ท่านต้องเจอ เปลี่ยนเป็นเบา จากเบาให้หายไปนะคะ
แล้วคราวนี้ทุกท่านล้วนแต่มีปัญหา ติดขัดบ่อยๆ เช่น การงาน การเงิน การเรียน สุขภาพ ใช่มั้ยคะ ลองสังเกตุดูนับตั้งแต่ทุกท่านจำความได้ วิธีนี้จะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้เบาบาง จนหายไปเลยค่ะ แต่ต้องหมั่นพูดทุกวันตอนสวดมนต์สองทุ่มครึ่งนะคะ ทุกท่านจำตอนแผ่บุญเข้าหาตัวเองครั้งสุดท้ายได้มั้ยคะ ที่ benfever ให้ทุกท่านอธิษฐานในสิ่งที่ต้องการลงไป ทุกท่านอธิษฐานตามนี้เพิ่มนะคะ
“ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเกิดในภพภูมิใดก็ตามใน 3 โลกธาตุนี้ ขอให้ความอด ความอยาก ความยาก ความไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นมีกับข้าพเจ้า นับตั้งแต่บัดนี้ตราบจนเข้าสู่นิพพานด้วยเทอญ”
พูดให้ได้ทุกวันนะคะ แล้วลองสังเกตดู จากเดิมก่อนที่จะอธิษฐานตามนี้ เวลาเงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็จะเปลี่ยนเป็นเงินไม่ขาดมือ ไม่ขาดจริงๆ ค่ะ เวลาทำอะไรจากเดิมที่เคยติดขัด ก็จะง่ายขึ้น จากอะไรที่ไม่เคยมี ก็จะสามารถมีได้มากขึ้น เป็นต้น และไม่ได้เป็นแค่ชาตินี้นะคะ เป็นไปทุกชาติจนคุณเข้านิพพาน
แต่ก็ไม่ใช่ว่า อธิษฐานอย่างเดียวด้วยนะคะ หมั่นเพียรภาวนาจักรพรรดิระหว่างวันด้วยนะคะ บทจักรพรรดิ์ยิ่งสวดยิ่งรวยนะคะยิ่งสวดยิ่งรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นให้หายได้ด้วย ยิ่งสวดยิ่งเป็นที่รัก เมตตา เป็นต้น
สำหรับสัปดาห์นี้ ยกพักเรื่องเคล็ดไม่ลับการสร้างบุญก่อนนะคะ จะรีบจัดการเรื่องจัดส่งพระผงจักรพรรดิ์ให้ก่อน  อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ สาธุ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:38:41 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 7
เจอกันเป็นตอนที่ 7 แล้วนะคะ หลายท่านที่เคยได้รับนํ้ามนต์จักรพรรดิ์จาก benfever ไปตั้งแต่ปีที่แล้วบ้าง ปีนี้บ้าง พอนำไปใช้ตามที่แนะนำ ก็ประหลาดใจหลังจากได้ดื่มนํ้ามนต์ที่ได้รับไปครั้งแรก ว่าทำไมถึงปวดเหมือนไม่สบายบ้าง เป็นหวัดบ้าง มีนํ้ามูกไหลออกจากจมูกบ้าง ทั้งๆ ที่ผู้ดื่มนํ้ามนต์จักรพรรดิ์คิดว่าไม่ได้เป็นหวัด ไม่ได้เป็นไข้เสียด้วยซํ้า ก่อนที่จะดื่มนํ้ามนต์จักรพรรดิ์ ต้องขอชี้แจงอีกรอบนะคะ ว่านํ้ามนต์ไปล้างเชื้อโรคที่อยู่ในร่างกายท่านให้ออกมาค่ะ บางคนวันเดียวก็หายแล้ว บางคนก็หลายวันอยู่ ขึ้นอยู่กับโรคภัยไข้เจ็บที่มีอยู่ในร่างกายของท่าน และหลายท่านก็คงพิสูจน์เห็นแล้วนะคะว่านํ้ามนต์จักรพรรดิรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ท่านเป็นอยู่ให้หายได้จริงๆ เล็กแต่ขวดนะคะ อนุภาพไม่เล็กข้อนี้ท่านก็ได้พิสูจน์กันแล้ว บางท่านที่เพิ่งได้รับนํ้ามนต์ไป ก็อาจจะสงสัยว่า นํ้ามนต์จักรพรรดินี้ benfever ได้มายังไง ก็ขอตอบด้วยความสัตย์จริงว่า นํ้ามนต์จักรพรรดิ์ที่ benfever ส่งให้ไปใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บในตัวท่านนั้น มาจากโอ่งนํ้ามนต์จักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่หลวงตาม้า วิริยธโร ท่านได้มอบให้ benfever ค่ะ เรื่องสรรพคุณนี่ เกินคาดแน่นอน
ยกตัวอย่างนะคะ ทุกท่านคิดว่า คนที่เป็นโรคสายตาสั้น ทำยังไงคะถึงจะหาย ปัจจุบันก็มีแต่รักษาแบบเลสิคใช่มั้ยคะ ถ้าไม่ใช่วิธีนี้ก็ไม่มีทางรักษาโรคสายตาสั้นให้หายได้แน่นอน ทุกท่านเชื่อมั้ยคะ เมื่อก่อนสายตาของ benfever สั้นประมาณ 8 ร้อยกว่าค่ะ พอได้ดื่มนํ้ามนต์จักรพรรดิ์ทุกวัน(ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เอานํ้ามนต์จักรพรรดิล้างหน้าบางวัน เพราะความขี้เกียจของ benfever เอง ล้างหน้าไม่ถึง 20 ครั้งด้วย สายตาจากเดิมที่เคยสั้น 8 ร้อยกว่า ลดลงเหลือประมาณ 5 ร้อยกว่าข้างนึง อีกข้างนึง 6 ร้อยกว่า (ภายในเวลาไม่ถึง 2-3 ปี) พิสูจน์มากับเบ้าตา benfever เลยค่ะ ว่านํ้ามนต์จักรพรรดิ์เจ๋งจริงๆ 555 นี่แค่โรคแบบจิ๊บๆ ค่ะ โรคเนื้องอกในสมอง โรคหัวใจโรคมะเร็ง โรคเอดส์ ยังหายขาดมาแล้ว แต่คนป่วยไม่ให้เปิดเผยตัวนะคะ ก็เลยเล่าได้เพียงเท่านี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนใครที่เพิ่งแจ้งรับนํ้ามนต์ไป เมื่อได้รับแล้วรีบแจ้งกลับมาด้วยนะคะ จะสอนวิธีใช้ให้ค่ะ ถ้าใช้ถูกวิธี ก็จะเห็นผล ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีผลก็เกิดช้า หรือเกิดน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างนะคะ จะหายขาดมั้ยขึ้นอยู่กับเจ้ากรรมนายเวรว่าจะยอมมั้ยนะคะ
ส่วนท่านใดที่พิสูจน์แล้วว่าดีจริง ก็สามารถนำไปแจกต่อให้คนอื่นได้เลยนะคะ ท่านจะได้ช่วยคนป่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอค่ะ หรือให้พูดตรงๆ ก็คือไม่ต้องเสียเงินไปหาหมอแม้แต่บาทเดียวเลยค่ะ ท่านจะได้สร้างทานบารมีเพิ่มขึ้นด้วย
บางท่านเคยสงสัย ถาม benfever ว่า ทำไมเวลาสวดจักรพรรดิแล้วรู้สึกตัวร้อนๆ บางทีคล้ายมีไฟมาส่องที่ตัวเวลาสวด ถ้าท่านจำเมล์แรกที่ benfever แนะนำทุกท่านไป benfever จะบอกนะคะว่าบทจักรพรรดิ์รักษาโรคได้ ความรู้สึกตัวร้อนนั้น หมายถึง ในร่างกายท่านมีโรคอยู่ค่ะ บางทีก็เป็นอยู่แล้ว บางทีโรคนั้นยังไม่ออกมา แต่เมื่อท่านสวดบทจักรพรรดิ บทจักรพรรดิ์ก็จะไปปรับธาตุในร่างกายท่านให้ดีขึ้น หรือหายค่ะ
ส่วนบางท่านที่เพิ่งได้รับพระผงจักรพรรดิ์ไป ส่วนใหญ่ล้วนเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับตัวท่านเอง บางท่านก็เห็นตั้งแต่ได้รับวันแรก หรือสวมพระผงจักรพรรดิ์  ตั้งแต่วันแรก และก็มีหลายท่านที่ยังไม่ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ไป แต่เริ่มสวดมนต์ตามที่บอกในไฟล์วันแรกก็เห็นผลเลย บางท่านอธิษฐานปุ๊ปเห็นปั๊ป benfever ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งนะคะ แต่ที่สำคัญอย่าชะล่าใจนะคะ ยิ่งดียิ่งต้องสวดให้มาก ปฏิบัติให้หนักขึ้น ของดีอยู่ใกล้ตัวใช้ให้เป็นประโยชน์นะคะ benfever พิสูจน์มาด้วยตัวเองแล้วทุกอย่าง ถึงได้เล่าเป็นเคล็ดไม่ลับให้ทุกท่านฟังได้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะไม่รำคาญนะคะ ถือว่าแบ่งปันเรื่องราวแล้วกันนะคะ งั้นเรามาลุยทางบุญกันต่อดีกว่าค่ะ

ทุกท่านเคยรู้สึกมั้ยคะว่า เวลาทำงานทำไมนะ หน้าที่การงานเรา ไม่รุ่ง เหมือนคนอื่นเค้า ทำไมไม่ก้าวหน้าเลย (เฮ้อ! ทำยังไงดีหล่ะเนี่ย ทำงานแทบจะถวายชีวิตให้ อยู่ที่ทำงานมากกว่าที่บ้านซะอีก เพื่อนร่วมงานกลับแซงหน้าเราไปซะงั้น) เดี๋ยวบอกวิธีช่วยให้ค่ะ ไม่เป็นไรนะคะ แต่อย่าละทิ้งการสวดมนต์เด็ดขาด ไม่สะดวกพยายามใช้ตัวช่วย (ไฟล์เสียง) หรือจะสวดคู่กันไปตลอดเลยก็ยิ่งดีค่ะ เหนื่อยยังไง ก็ต้องสวดนะคะ benfever ยังเคยสวดมนต์จนหลับเลย สวดยังไม่จบด้วยซํ้า หลับซะก่อน ทุกท่านก็ต้องพยายามนะคะ เรามาว่ากันถึงวิธีช่วยดีกว่านะคะ
เข้าหัวข้อกันเลย

ทำยังไง ให้งานราบรื่น
1. นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม กำพระผงจักรพรรดิ์ไว้
2. แล้วอธิษฐานในใจ
"ข้าพเจ้า...... ขอยกตำแหน่งหน้าที่การงานทั้งหมดของข้าพเจ้า ให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ดูแล จัดการงานทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งหน้าที่การงานนี้ และยุติปัญหาทุกๆ อย่าง ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งหน้าที่การงานนี้ นับตั้งแต่บัดนี้ตลอดไปด้วยเทอญ"
3. แล้วสัพเพ 5 ครั้งมาที่ตัวคุณค่ะ ขณะสัพเพ กำพระ ลืมตาดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรมนะคะ
ทำครั้งเดียวพอค่ะ แล้วหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า จะเคลี่ยร์ปัญหาทุกอย่างให้คุณ แต่คุณอย่าจิตตกนะคะ ไม่อย่างงั้นมันจะดึงปัญหาเข้ามาเพิ่มค่ะ แต่บางท่านก็ยังสงสัยว่า จะราบรื่นจริงเหรอ benfever ก็ขอตอบตามความเป็นจริงว่า จริงค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความศรัทธาของทุกท่าน บางท่านก็ยังสงสัยว่า อธิษฐานครั้งเดียวจะเพียงพอเหรอ benfever ขอตอบว่า พอค่ะ บางท่านสงสัยว่า แล้วถ้าเลื่อนตำแหน่งหล่ะ ถ้าเลื่อนตำแหน่งก็อธิษฐานใหม่ เพราะท่านอธิษฐานในตำแหน่งที่ทำอยู่ปัจจุบันนะคะ

*** แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่า ไม่ใช่อธิษฐานเสร็จ อีก 1 ชม. คิดละ จริงเหรอ ไม่จริงหรอก ไม่สำเร็จเหรอ ยังโดนอยู่เลย มันก็จะเป็นอย่างที่คุณคิดแหล่ะค่ะ คุณลองคิดในด้านบวกซิคะ เช่น โชคดีนะที่ไม่โดนหนักกว่านี้ เป็นต้น เพราะหนักกว่าคุณก็มีค่ะ คุณอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ท่านช่วยแล้วคุณต้องมั่นใจ เชื่อในบารมีท่าน แล้วจะสำฤทธิ์ผลฉับพลันทันตาเห็นค่ะ บางท่านก็สงสัยอีกว่า แล้วฉับพลันทันตาเห็นนี่มัน กี่นาที benfever ขอยกตัวอย่างจากคนที่เคยอธิษฐานด้วยความศรัทธานะคะ พรุ่งนี้จะโดนไล่ออก แต่ไม่โดนค่ะ , รู้ว่ากำลังถูกบีบให้ออก กลับกลายเป็นปกติ ทั้งๆ ที่โดนมานาน จนถึงวันที่อธิษฐาน วันรุ่งขึ้นกลับกลายเป็นไม่มีปัญหา เป็นต้น
เคล็ดไม่ลับตอนต่อไป จะคุยกันเรื่องคนที่เปิดกิจการนะคะ ตอนนี้พอแค่นี้ก็นะคะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ สาธุ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:40:16 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 8
หลังจากที่ทุกท่านได้สวดมนต์ และปฏิบัติตามที่ได้แนะนำกันไป ส่วนใหญ่ก็ประหลาดใจว่า ได้ฝันว่ามีเทวดามาขอบคุณ มาอนุโมทนาบุญกับสิ่งที่ท่านได้ทำ บางท่านก็ได้เห็นบิดา มารดา ญาติพี่น้องที่เสียชีวิตไปแล้วมาขอบคุณที่ช่วย เป็นต้น นี่แหล่ะค่ะ คือตัวอย่างเล็กๆ ของอนุภาพบทสวดจักรพรรดิ์ และบารมีหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เพราะเวลาทุกท่านสวดมนต์ ภาวนา ทำสมาธิ ท่านนึกหรือดูภาพใครจะใหญ่เกินกรรมถูกมั้ยคะ พลังงานบุญที่จะส่งไปยังบุคคลเหล่านั้น ภพภูมิอื่นๆ ก็มาจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ค่ะ พลังงานบุญผ่านมายังตัวท่าน ท่านก็ได้บุญไปด้วย
เป้าหมายก็ได้รับบุญไปด้วย หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร บารมีท่านเต็มค่ะ ล้นฟ้าก็กว่าได้ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็มค่ะ มีหนึ่งเดียวที่จะทำอย่างนี้ได้ พอท่านเริ่มปฏิบัติกันไปเรื่อยๆ ก็จะเจออะไรที่น่าอัศจรรย์ใจอีกมากค่ะ แต่ทุกท่านอย่าลืมนะคะ ทุกท่านเป็นคนรับบุญจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า แล้วส่งต่อไปยังเป้าหมาย ถ้าท่านจิตตก เครียด ท่านก็จะรับพลังงานบุญจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ได้น้อย ส่งไปหาเป้าหมายก็ยิ่งน้อยไปใหญ่
บางท่านก็สงสัยว่า เอ๊ะ! ในรูปใครจะใหญ่เกินกรรม ทำไมนะ มีรูปหลวงปู่ทวด ทำไมไม่เห็น benfever พูดถึงเลย ก็ขอตอบกันเลยนะคะว่า หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ คือหลวงปู่ทวด กลับชาติมาเกิดค่ะ ถ้าคนที่เป็นลูกศิษย์หลวงตาม้า ก็จะรู้เรื่องนี้กันดีค่ะ จะรู้ได้อย่างไรว่าจริงหรือไม่ อันนี้ก็ต้องสวดมนต์ไปนะคะ แล้วท่านจะเจอคำตอบเองค่ะ
ส่วนท่านใดที่Forward เมล์ แจกพระ แจกนํ้ามนต์ต่อ รบกวนก่อนที่จะทำสิ่งเหล่านี้ ปฏิบัติตามเคล็ดไม่ลับในตอนก่อนที่ benfeverได้พูดถึงการแจกพระด้วยนะคะ เพราะ benfever จำเป็นต้องปกป้องทุกท่าน และคนที่ได้รับพระ เมล์ นํ้ามนต์ จากทุกท่านไปนะคะไม่งั้นคนที่ไม่เค้าใจ ปัญหาตามมาเยอะมาก ไม่จบชาติเดียวด้วย ตามหลายชาติเลยค่ะ
บางท่านสงสัยว่า ถ้าสวดไปจะมีมาขอบคุณในฝันเท่านั้นเหรอ benfever ก็ขอตอบว่าไม่ใช่นะคะ ก็มีกันมาเป็นๆ ก็มีค่ะ แต่อยู่ที่ว่าท่านจะเห็นมั้ย นั่นก็อีกเรื่องนึง บางท่านตกใจ ได้ยินเสียง แต่ยังไม่เห็น ทำให้กลัวกันไป ก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เค้ามาอนุโมทนาบุญกับท่านค่ะ
เรื่องนํ้ามนต์จักรพรรดินิดนึงนะคะ ทุกท่านไม่ต้องเกรงใจนํ้ามนต์จักรพรรดิ์นะคะ ใช้ล้างหน้าได้เลย บางท่านเกรงใจกันเกินไป ไม่กล้าล้าง นํ้ามนต์ล้างหน้า สิวก็ไม่ขึ้น รักษาโรคที่เกิดขึ้นกับดวงตากับหน้าได้เลยนะคะ ไม่จำเป็นต้องหยอดตาก็ได้นะคะ แค่ล้างหน้าก็เพียงพอ ต้อก็หาย ตาบอดยังหายเลยค่ะ ล้างหน้าไปทุกวันได้เลย ไม่ต้องเกรงใจนํ้ามนต์นะคะ (ขอยํ้า) บางคนที่อาบนํ้ามนต์ทุกวัน ล้างหน้าด้วยนํ้ามนต์ทุกวัน หน้าเด็กเลยนะคะ สังเกตุกันมั้ยคะว่า คำพูดที่ benfever จะพิมพ์พูดคุยกับทุกท่านจะต้องมีคำว่า อนุโมทนาบุญด้วย สาธุ สาธุ (แล้วทำไมหล่ะ ใครๆ ก็พิมพ์กัน) งั้นตอนนี้เราจะมาคุยกันเรื่องพูดนะคะ เข้าเรื่องกันเลยนะคะ

พูดอย่างไรให้ได้บุญ
- พูดว่า” อนุโมทนาบุญ” หรือ “สาธุ สาธุ” ออกเสียงค่ะ ยํ้านะคะ พูดออกเสียง จะได้บุญมากกว่าพูดในใจ
คุณเห็นอะไรที่น่ายินดี น่าชื่นชม คุณอนุโมทนาบุญได้เลยค่ะ ไม่ต้องเขิน benfever ทำประจำค่ะ เวลาเห็นคนอื่นตักบาตร ,สวดมนต์ , มาบอกบุญ หรือ เห็นสิ่งใดที่เป็นบุญเป็นกุศล เป็นต้น พูดออกเสียงไปเลยค่ะว่า “อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ สาธุ” แต่ไม่ใช่ว่าทุกท่านเห็นคนตักบาตรอยู่อีกฝั่งถนนนึง แล้ว นึกเลย “benfever บอกให้พูดออกเสียง ทำไงดีหล่ะ ตะโกนเลยแล้วกัน “ ยายยยยย ค่ะอนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ สาธุ” ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ตัวใครตัวมันแล้วกันนะคะ ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นค่ะ พูดกับตัวเองก็ได้ หรือพูดให้คนข้างๆ คุณได้ยินก็ได้ค่ะ เมื่อเค้าร่วมอนุโมทนาบุญ ตามคุณ คุณก็ได้รับบุญเพิ่ม เพราะคุณเป็นต้นเหตุ ที่นำคนข้างๆ ร่วมพูดอนุโมทนาบุญด้วย
เห็นมั้ยคะ ง่ายนิดเดียวเอง แล้วทุกท่านเคยทราบมั้ยคะ
เวลาไปวัด ไปทำบุญ บริจาคอะไรต่างๆ ก็ใส่ชื่อเรา ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง แฟน ญาติ เป็นต้น ท่านเคยทราบมั้ยคะว่า คนเหล่านั้นไม่ได้บุญที่ท่านเขียนชื่อให้ ( แล้วทำยังไงหล่ะ)
- เมื่อไปทำบุญ แล้วเขียนชื่อ-สกุล ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง แฟน ญาติ เป็นต้น หลังจากนั้น คุณก็ควรบอกบุคคลที่มีชื่ออยู่ในนั้นด้วยนะคะ ว่า “วันนี้คุณไปทำบุญอะไรมา และเขียนชื่อ-สกุล ให้เค้าร่วมอนุโมทนาบุญด้วย”
- เมื่อบุคคลนั้นได้รับทราบแล้ว ก็ให้เค้ากล่าว “อนุโมทนาบุญ” ด้วยนะคะ
- แล้วคุณก็กล่าว “อนุโมทนาบุญ” อีกครั้งก็ได้ค่ะ เป็นการยินดีที่เค้ายินดีกับการทำบุญ
(คุณก็ได้ดับเบิ้ลบุญไปด้วย)
มีบุญก็ต้องมีบาป แล้วเป็นยังไง ตามหัวข้อเลยค่ะ

พูดอย่างไรให้เป็นบาป
แล้วทุกท่านเคยเป็นกันมั้ยคะ เวลาเห็นคนไม่ดี หรือคนที่เคยรังแกเรา ได้รับสิ่งไม่ดีตอบสนอง เช่น เห็นโจรถูกรุมประชาทัณฑ์ หรือเห็นเพื่อนร่วมงานที่ไม่ถูกกับเรา โดยเจ้านายดุใส่ ท่านจะพูดกันว่ายังไงคะ ส่วนใหญ่ก็ “ดี สมนํ้าหนัก” “แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซํ้า” เป็นต้น ท่านรู้มั้ยคะว่าสิ่งที่ท่านพูดออกไปนั้น เป็นการ อนุโมทนาค่ะ แต่ไม่ใช่อนุโมทนาบุญนะคะ เป็นการอนุโมทนาบาป ถ้าโจรถูกรุมประชาทัณฑ์ เช่น ต่อย กระทืบ เป็นต้น ท่านก็ร่วมทำร้ายโจรนั้นไปด้วย พอเกิดชาติต่อไปก็ถูกเอาคืนไปด้วย เมื่อเป็นอย่างนี้ ทำใจให้เป็นกลาง ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องดูทีวีเวลามีข่าวประเภทนี้ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นใดๆ นะคะ เพราะการที่คนสร้างบาปกรรมไว้ ยังไงก็ต้องได้รับผลกรรมที่ทำอยู่ดี แต่อยู่ที่ว่าทุกท่านจะมีโอกาสได้ดูจนจบ ได้ดูจนถึงคนที่สร้างกรรมนั้นตายหรือไม่ ได้ดูต่อมั้ยว่าหลังจากตายแล้วคนนั้นไปไหน ได้ดูต่อมั้ยว่าพอมาเกิดแล้วมีชีวิตอย่างไร ถ้าท่านรู้ benfever มั่นใจว่าท่านคงอยากจะสวดมนต์อย่างเดียวมากกว่า อันนี้เล่าเป็นเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยแล้วกันนะคะ

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:42:06 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญ ตอนที่ 9
(เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญนี้ benfever ได้เขียนมาหลายปีแล้ว แต่ยังสามารถใช้ได้ผลเสมอ ท่านใดที่ยังไม่ได้อ่านลองอ่านดูนะค่ะ)
วันนี้ได้จัดส่ง พระผงจักรพรรดิ์ และนํ้ามนต์จักรพรรดิ์ ตามที่ท่านได้แจ้งแล้วนะคะ พรุ่งนี้คาดว่าจะจัดส่งเพิ่มอีก และจัดส่งอีกครั้งคงจะเป็นอาทิตย์หน้านะคะ เพราะตอนนี้มีแจ้งเข้ามามากแต่ยังไงก็จะรีบส่งให้เร็วที่สุดนะคะ อดใจรอกันนิดนึงนะคะ
จากเคล็ดไม่ลับการสร้างบุญตอนก่อน ได้พูดเรื่องค้าขาย หลายท่านคงอยากรู้แล้วใช่มั้ยคะ ว่าถ้าเปิดร้านขายของ – เปิดร้านค้า หล่ะ อยากจะให้กิจการรุ่งเรืองทำยังไงได้บ้าง-หล่ะ ตามหัวข้อเลยค่ะ

ขายยังไงให้เฮงๆ
1. ให้เจ้าของร้าน เจ้าของกิจการ นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม กําพระผงจักรพรรดิ์ไว้
2. แล้วอธิษฐานในใจ
"ข้าพเจ้า...... ขอยกกิจการร้านขาย......ทั้งหมดของข้าพเจ้า ให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร เป็นผู้จัดการให้หมดแล้ว ข้าพเจ้าขอเป็นลูกจ้างแทน นับตั้งแต่บัดนี้ตลอดไปด้วยเทอญ"
อธิษฐานยกกิจการให้หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ท่านช่วยดูแล อธิษฐานครั้งเดียวก็พอค่ะ
*** ผลที่ปรากฏจากคนที่เคยอธิษฐานยกกิจการนะคะ ขายยังไงก็ไม่มีเจ๊ง ไม่มีขาดทุน บางรายนับแบงก์ไม่ทันเลยค่ะ ขายกันจนไม่ได้พักกันเลยทีเดียว
3. อธิษฐานอีกครั้งนะคะ “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยให้ภูมิเทวดา เทพพรหมเทวา เทวดาทุกๆ องค์ที่ปกปักษ์รักษากิจการนี้ และอยู่รอบบริเวณกิจการนี้ และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ทั้งหมดทั้งมวล ชักชวนคนเข้ามาซื้อของเยอะๆ ด้วยเทอญ” แล้วสัพเพ 5 ครั้ง ไปที่กิจการร้านค้าค่ะ ขณะสัพเพ กําพระ ลืมตาดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรมนะคะ
แต่อธิษฐานเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้าน ตามข้อ 3. ควรทำทุกวันนะคะ
บางท่านชอบพูดติดปากว่า ขายไม่ดีเลย บางก็ขายขาดทุน เพราะไม่อยากให้คนรู้ว่าขายดี เมื่อท่านยกกิจการให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร แล้วก็ไม่ควรพูดลักษณะนี้ให้ติดปากนะคะ เพราะเมื่อจิตของเจ้าของกิจการคิดว่าขายไม่ดี ขาดทุน มันก็จะยํ้าๆ ความรู้สึกนี้ตลอด มันก็จะไปดึงกระแสกรรมนี้เข้ามา ทำให้จากที่จะขายได้ดี ก็ขายไม่ดีเท่าที่ควร เพราะเจ้าของกิจการไปเรียกกระแสกรรมนี้เข้ามาเอง แต่ยังไงก็ไม่มีขาดทุนค่ะ คุณต้องอธิษฐานยกกิจการด้วยความศรัทธา เชื่อในบารมีหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เหมือนคนที่ทำงานประจำ พอยกตำแหน่งหน้าที่การงานให้ หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ดูแลแล้ว ทำยังไงก็ไม่ติดขัด บางรายมีรายได้พิเศษเข้ามาอีก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความศรัทธาของท่านเอง ผลลัพธ์ก็จะน่าพอใจอย่างที่เมล์มาเล่าให้ benfever อ่านกัน แต่ก็อย่าชะล่าใจนะคะ ปฏิบัติต่อไปเรื่อยๆ เพื่อที่กิจการ หรือหน้าที่การงานของท่านจะได้เจริญก้าวหน้า
แล้วเวลายกกิจการ หรือตำแหน่งหน้าที่งานให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ดูแลแล้ว ควรทำยังไงต่อไป benfever แนะนำให้คุณแบ่งรายได้บางส่วนทำบุญกับท่านนะคะ เพราะเมื่อทุกท่านยกกิจการ หรือหน้าที่การงานให้ หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ดูแลแล้ว ก็เปรียบเสมือนท่านทำงานแทนคุณค่ะ คุณต้องจำเรื่องนี้ไว้ให้ดี การแบ่งรายได้ทำบุญกับท่าน จำเป็นต้องทำมากมั้ย
ขอตอบว่าไม่จำเป็นค่ะ benfever จะทำบุญถวายท่านทุกเดือน นำรายได้มาถวายทุกเดือน บางทีก็ 100 บาท 80 บาท 10 บาท ก็ยังเคย วิธีทำแบบนี้เป็นการใช้บุญ ต่อบุญค่ะ แต่ benfever จะถวายเงินเข้าบัญชีหลวงตาม้า โดยตรง เพราะรู้ว่าท่านนำเงินไปสร้างประโยชน์มากมาย เช่น สร้างวิหาร บำรุงวัดและสาขา ออกค่าใช้จ่ายให้คนที่จะบวชฟรี ส่งเด็กยากจน เด็กชาวเขาเรียนหนังสือ สร้างพระแจกฟรี เป็นต้น เงินที่คุณทำบุญถวายหลวงตาม้า ท่านก็จะนำไปทำบุญให้ทุกท่าน ทุกท่านก็ได้อานิสงค์มหาศาลค่ะ แล้วลองสังเกตดูนะคะ การเงิน การงาน และชีวิตท่าน จะไม่เหมือนเดิม จะดีขึ้นเรื่อยๆ จนประหลาดใจ ไม่ต้องรอเป็นปีนะคะ ใช้เวลาไม่นานจริงๆ บางรายไม่ถึงเดือนก็เห็นควรเปลี่ยนแปลงกันแล้ว แต่ถ้ายกกิจการ หรือตำแหน่งงานเมื่อท่านมีรายได้ เงินเดือน
 ก็อย่าลืมแบ่งทำบุญนะคะ benfever จะแจ้งเลขที่บัญชีหลวงตาม้าให้ค่ะ เพราะ benfever เวลาทำบุญถวายท่านก็เข้าบัญชีท่านโดยตรงบัญชีนี้บัญชีเดียว หรือไปถวายปัจจัยด้วยตัวเองเท่านั้น
ชื่อบัญชี พระวรงคต วิริยธโร ธนาคารกสิกรไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขามูลเมือง เลขที่บัญชี 383-2-23925-8

benfever ขออนุญาตแนะนำนะคะ ถ้าท่านจะทำบุญให้รวบรวมกันหลายๆ คน แล้วโอนเงินทีเดียวจะได้ประหยัดค่าโอน โอนผ่านมือถือ เสียค่าธรรมเนียม 15 บาทค่ะ หรือจะโอนผ่านเน็ตก็ประหยัดค่าธรรมเนียมนะคะ พยายามอย่าโอนหน้าเคาน์เตอร์นะคะ ถ้าอยู่คนละจังหวัด เพราะค่าธรรมเนียมแพงค่ะ
เมื่อพูดกันเรื่องยกกิจการ ยกตำแหน่งงานกันไปแล้ว ทุกท่านเคยเจอปัญหากับลูกน้อง เพื่อนร่วมงานบ้างมั้ยคะ ทุกท่านอยากได้ลูกน้อง เพื่อนร่วมงานที่ดีๆ ที่เชื่อฟัง กันบ้างมั้ยคะ

อธิษฐานยังไงให้ได้ลูกน้องดี
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรม พร้อมกําพระผงจักรพรรดิ์
- อธิษฐานในใจ “ ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยเรียกลูกน้องเก่ามาให้ข้าพเจ้าด้วยเทอญ”
ทุกท่านก็จะได้ลูกน้องเก่า ในอดีตชาติมาร่วมงาน แล้วลูกน้องจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกําลังบุญของทุกท่านที่เคยสร้างไว้ตั้งแต่ อดีต จนถึงปัจจุบันค่ะ
ทำยังไงคุณเคยรำคาญคนพูดมาก เบื่อ ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากฟัง คนเหล่านั้นมั้ยคะ เช่น เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เป็นต้น ถ้าเคยลองดูวิธีนี้ค่ะ

ทำยังไง จะเงียบสักที
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรมค่ะ พร้อม กําพระผงจักรพรรดิ์
- อธิษฐานในใจนะคะ “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยให้ข้าพเจ้าไม่ได้ยินเสียงเจ้านาย , เพื่อนร่วมงาน พูดด้วยเทอญ”
- อธิษฐานเสร็จ ภาวนาบทจักรพรรดิ์ในใจเลยค่ะ ขณะภาวนาให้นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรมนะคะ
ผลที่ตามมา ตัวอย่างจากคนที่เคยอธิษฐาน คุณจะไม่ได้ยินเสียงคนนั้นพูดเลย ถึงแม้คนๆ นั้นจะพูดต่อหน้าคุณ และขณะคุณสวดจักรพรรดิ์ คุณจะไม่ได้ยินเสียงเลยค่ะ แต่จะเห็นปากคนพูดขยับนะคะ แต่ไม่ได้ยินว่าพูดอะไร กลับกลายเป็นเราขำซะงั้น ไม่รู้มาพะงาบๆ อะไรหน้าเราแล้วทุกท่านชอบข่าวร้าย หรือข่าวดีมากกว่ากันคะ ทุกข์ใจมั้ยคะ เวลาได้ยินข่าวร้าย เสียใจมั้ยคะ ลองดูวิธีนี้นะคะ

อยากได้ยินแต่ข่าวดีจัง
- นึกหรือดูรูปใครจะใหญ่เกินกรรมค่ะ พร้อม กําพระผงจักรพรรดิ์
- อธิษฐานในใจนะคะ “ขอให้หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ช่วยให้ข้าพเจ้ารับรู้เฉพาะสิ่งที่เป็นมงคลเท่านั้น สิ่งที่ไม่เป็นมงคล ข้าพเจ้าไม่ขอรับรู้”
แค่นี้ค่ะ มีแต่เรื่องดีๆ จริงๆ แบบนี้ ต้องหมั่นอธิษฐานทุกวันนะคะ
อ่านกันจนจุใจแล้วใช่มั้ยคะ งั้นพักสายตากันก่อนนะคะ ในฉบับนี้

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:44:35 am »
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญตอนที่ 10
ทุกวันนี้ benfever ได้รับเมลจากทุกท่านที่เคยดูดวง และเคยได้รับพระผงจักรพรรดิ์ – นํ้ามนต์จักรพรรดิ์ จาก benfever ไป ส่งเมลกลับมาเล่าถึงความคืบหน้าในการปฏิบัติ หรือผลลัพธ์ที่ปรากฏหลังจากได้ปฏิบัติตามที่แนะนำไปอย่างครบถ้วน ด้วยความศรัทธาในหลวงปู่ดู่  พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร บางท่านเกิดปาฏิหารย์ฉับพลันตั้งแต่วันแรกที่สวดมนต์ตามที่แนะนำ โดยที่ยังไม่ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ก็มีมากมาย บางท่านได้รับแล้วปาฏิหารย์ก็มีมาให้ท่านได้ลุ้นกันเยอะทีเดียว บางท่านเกิดเหตุอัศจรรย์เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่เป็น จนหมอก็ตกใจกันไปแล้ว หมอบางท่านให้คำตอบทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่ที่นี่ให้คำตอบได้ เพียงแค่ปฏิบัติตามให้ครบทุกวันด้วยความศรัทธาเท่านั้น
แต่อยากจะขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตท่าน ไม่ใช่เพราะ benfever แต่เป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และหลวงตาม้า วิริยธโร ประกอบกับความศรัทธาของทุกท่านที่ปฏิบัติเป็นที่ตั้งด้วย ส่วนปัจจัยอื่นๆ ก็ว่ากันไป เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ benfever แค่ผ่านมาแนะนำท่านเมื่อถึงวาระเวลาเท่านั้นเอง เห็นมั้ยคะ ผลลัพธ์ที่ปรากฏใช้เวลาไม่นานเลย บางท่านวันแรกที่สวดมนต์ตามที่แนะนำก็เห็นผลกันแล้ว บางท่านไม่กี่วันก็เห็นผล บางท่านไม่กี่อาทิตย์ก็เห็นผลกันแล้ว บางท่านไม่กี่เดือนเอง ทั้งๆ ที่ท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีโอกาสสำเร็จมากน้อยขนาดไหน ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตาม อย่าชะล่าใจเด็ดขาด อย่าลืมสวดมนต์ตามที่แนะนำนะคะ และอยากให้ทุกท่านที่ได้อ่านร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ส่งเมล์มาเล่าถึงความคืบหน้าให้ฟังด้วยนะคะ

หลายท่านมีบทสวดมนต์ที่เคยสวดกันมานานแล้ว ก็สงสัยว่าถ้าสวดมนต์ตามบทสวดมนต์ที่ benfever แนะนำไปนี้แล้ว จำเป็นต้องสวดบทเดิมๆ ที่เคยสวดหรือไม่ benfever ก็ขอตอบด้วยความสัตย์จริงว่า ไม่จำเป็นแล้วค่ะ เพราะบทสวดมนต์ที่แนะนำไปครอบคลุมบทสวดอื่น ๆ หมดแล้ว แต่ถ้าทุกท่านยังอยากสวดมนต์บทเดิมตามความเคยชิน ความศรัทธาใดๆ ก็แล้วแต่ ก็ไม่มีปัญหาค่ะ จะสวดมนต์ตามเดิมได้ทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นบุญหมดค่ะ ห้ามดัดแปลงบทสวดมนต์ที่ benfever ส่งไฟล์ให้เด็ดขาดนะคะ เพราะครูบาอาจารย์ท่านทำไว้ดีแล้ว แต่อย่าลืมว่า ต้องสวดมนต์ตามที่แนะนำเวลาสองทุ่มครึ่งนะคะ ถ้าไม่มีกรณีฉุกเฉินจริงๆ เนื่องจากว่าเวลานี้ 3 โลกธาตุ สวดมนต์พร้อมกันค่ะ ท่านเชื่อมั้ยคะว่า มีแค่บทนี้เท่านั้น ที่ทำให้เวลาสองทุ่มครึ่ง นรกภูมิหยุดทำงาน และมาสวดพร้อมกับท่านได้ ถ้าฉุกเฉินจริงๆ ท่านเปิดเสียงสวดมนต์ประจำวันได้เลย แล้วสวดตาม benfever จะยํ้าทุกท่านเสมอ เรื่องอธิษฐาน การอธิษฐานตามที่ได้เล่าไปในเคล็ดไม่ลับแต่ละตอนนั้น benfever ได้รวบรวมมาจากหลวงตาม้า ทุกสิ่งครอบคลุม และเห็นผลเร็วมาก ยิ่งท่านสวดมนต์ และอธิษฐานขอสิ่งใดในเวลานี้ จะสัมฤทธิ์ผลเร็วมาก เพราะเป็นเวลาที่กำลังเยอะที่สุดค่ะ อย่าลืมดูหรือนึกภาพใครจะใหญ่เกินกรรมให้ออกตลอดเวลาที่สวดมนต์ และกำพระผงจักรพรรดิ์ไปด้วยนะคะ
แล้วเคล็ดไม่ลับการสร้างบุญแต่ละตอน benfever จะบอกว่า สัพเพ 3 ครั้ง สัพเพ 5 ครั้งบ้าง สัพเพที่ว่านี้คือ
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ
จะยังพลัง อะระหันตานัญ จะเตเช นะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ
จะยังพลัง อะระหันตานัญ จะเตเช นะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ
จะยังพลัง อะระหันตานัญ จะเตเช นะรักขัง พันธามิ สัพพะโส
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
จากข้างต้นนี้ เป็นการสัพเพ 3 ครั้งนะคะ

แล้วทุกท่านเคยได้ยินคนที่เหมือนมีลางสังหรณ์กันบ้างมั้ยคะ เช่น รู้ล่วงหน้า เป็นต้น ในเคล็ดไม่ลับตอนนี้ benfever จะเล่าวิธีที่จะทำให้ทุกท่านรับรู้ได้ยิ่งกว่าสัมผัสที่ 6 อีก เรียกว่า รับรู้ตามสภาพความเป็นจริง เช่น รู้สึกได้ตามสภาพความเป็นจริง รู้ล่วงหน้าตามสภาพความเป็นจริง บางทีรู้ว่าเรากำลังโกรธ เมื่อเรารู้ก็จะทำให้เราได้สติ และหยุด บางทีรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามความเป็นจริง บางทีรู้ว่าใครคิดถึงเรา บางทีรู้ว่าใครโกรธเรา บางทีรู้ว่าใครคิดยังไงกับเรา เป็นต้น อยากจะมีกันแล้วใช่มั้ยคะ ก็มา
เข้าถึงหัวข้อ

ทำอย่างไรให้รู้ตามสภาพความเป็นจริง
หลังจากตื่นตอนเช้า สวดจักรพรรดิ์แล้ว โดยที่ยังไม่ลุกจากหมอนนะคะ เมื่อลุกขึ้นมากราบภาพใครจะใหญ่เกินกรรมที่หมอนแล้ว
- ดูหรือนึกรูปใครจะใหญ่เกินกรรมตลอดเวลา พร้อมกับกำพระผงจักรพรรดิ์ด้วยนะคะ ไม่ต้องหลับตานะคะ
- กล่าวสมาทานศีล 5 ค่ะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุธธัสสะ (3 ครั้ง)
 พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
 ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
 สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ
ปาณาติปาตา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ
อทินนาทานา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ
อะพัมมจริยา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ
มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ
สุราเมระยะ มัชชะปะมา ทัฎฐานา เวรมณี สิกขาปะทัง สมาทิยามิ
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาทิยามิ ( 3 ครั้ง)
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปทา
สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโส ธะเย
- ทุกท่านกล่าวอาราธนาบารมีแบบตอนสวดมนต์สองทุ่มครึ่งนะคะ ว่า “ข้าพเจ้าขอกราบอาราธนาบารมีกำลัง สมเด็จองค์ปฐม ถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ทุก ๆ พระองค์ บารมีรวมพระปัจเจก พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคตทุกๆ พระองค์ บารมีรวมเทพเทวดา 6 ชั้นฟ้า ทุกๆ พระองค์ พรหม 20 ชั้นพรหม ทุกๆ พระองค์ บารมีรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในถํ้าเมืองนะทั้งหมดทั้งมวล โดยมีบารมีรวมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ หลวงตาม้า วิริยธโร เป็นที่สุด สิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ขอให้รับรู้ได้เฉพาะความเป็นจริง”
แค่นี้ค่ะ หลวงตาม้าท่านเคยบอกว่า อธิษฐานทุกวัน สวดมนต์ตามที่แนะนำทุกวัน อย่างเร็ว 3 เดือน อย่างช้า 3 ปี เห็นผล (ทำตามที่แนะนำนะคะ อย่าดัดแปลงอย่างอื่น ไม่งั้นผลไม่เกิดค่ะ)
นอกจากนี้ทุกท่านสามารถอธิษฐาน สิ่งอื่นที่ต้องการ ตามเคล็ดไม่ลับในตอนก่อนหน้านี้ เพิ่มเข้าไปได้อีกนะคะ อย่างไรก็ตาม เคล็ดไม่ลับออกมาก็ 10 ตอนแล้ว benfever หวังว่าทุกท่านคงจะทำเคล็ดไม่ลับต่างไปปฏิบัติกันไม่มากก็น้อยนะคะ พยายามทำให้ได้ทุกวันนะคะ เพราะบุญอยู่รอบตัวท่านทั้งนั้น อยู่ที่ว่าท่านจะเก็บบุญกันหรือเปล่าเท่านั้นเอง ตอนต่อไปจะแนะเคล็ดลับง่ายๆ จะอธิษฐานให้ได้ผลไวๆ นะคะ ระหว่างรอตอนต่อไป ทุกท่านพยายามทำตาม เคล็ดไม่ลับให้ได้มากที่สุด เพื่อตัวท่านเอง แล้วท่านจะทราบว่า สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์มหาศาลยังไง

*

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

  • ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
  • Administrator
  • Jr. Member
  • *****
  • 67
    • ดูรายละเอียด
Re: เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part1)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2016, 01:46:10 am »
โปรดติดตามตอนต่อไป
เคล็ดไม่ลับการสร้างบุญเล่มที่ ๑ (part2)